อย่าซื้อเครื่องเชื่อมถ้ายังไม่รู้ 7 สิ่งนี้!

อย่าซื้อเครื่องเชื่อมถ้ายังไม่รู้ 7 สิ่งนี้!

การเลือกซื้อเครื่องเชื่อมสักเครื่องในปัจจุบันอาจเป็นเรื่องน่าปวดหัวไม่น้อย เพราะเมื่อคุณลองค้นหาข้อมูล จะพบกับตัวเลือกมากมายมหาศาล ทั้งเครื่องเชื่อมไฟฟ้า (MMA), เครื่องเชื่อม TIG, เครื่องเชื่อม MIG, ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter), ระบบหม้อแปลง (Transformer) และศัพท์เทคนิคอีกมากมายที่อาจทำให้คุณสับสน การตัดสินใจซื้อโดยที่ยังไม่เข้าใจ นอกจากจะทำให้คุณได้เครื่องเชื่อมที่ไม่ตอบโจทย์แล้ว ยังเป็นการเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

บทความนี้จะพาไปดู 7 ประเด็นสำคัญที่คุณต้องพิจารณาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อเครื่องเชื่อม ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมือใหม่ที่กำลังมองหาเครื่องแรก หรือเป็นผู้ใช้งานที่ต้องการอัปเกรดเครื่องมือให้ดีขึ้น การทำความเข้าใจในสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อเครื่องเชื่อมที่ “ใช่” สำหรับคุณได้อย่างมั่นใจ และคุ้มค่าที่สุด

 

7 สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ก่อนซื้อเครื่องเชื่อม

  1. เราจะเอาเครื่องเชื่อมไปใช้ทำอะไร?
    คำถามแรกที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ ไม่ใช่ “จะซื้อเครื่องเชื่อมยี่ห้ออะไรดี?” แต่คือ “เราจะเอาเครื่องเชื่อมไปใช้ทำอะไร?” และ “จะใช้เชื่อมกับวัสดุประเภทไหน?” คำตอบของคำถามนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเลือกประเภทของเครื่องเชื่อมที่เหมาะสมที่สุด
  1. รู้จักประเภทของเครื่องเชื่อมก่อนตัดสินใจ
    • เครื่องเชื่อมแบบ MMA (Manual Metal Arc): เครื่องเชื่อมไฟฟ้า หรือเครื่องเชื่อม Inverter คือเครื่องเชื่อมที่ใช้หลักการอาร์ก (Arc) โดยความร้อนจะหลอมละลายทั้งลวด และชิ้นงานเข้าด้วยกัน ฟลักซ์ (flux) ที่หุ้มอยู่จะทำหน้าที่ปกคลุมรอยเชื่อมจากอากาศ และเกิดเป็นสแลกที่ต้องเคาะออกภายหลัง เหมาะกับงานโครงสร้างทั่วไป งานกลางแจ้ง หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้แก๊สได้
    • เครื่องเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas): เป็นเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่ใช้หลักการอาร์ค โดยใช้ลวดทังสเตนเป็นหัวอิเล็กโทรด และใช้แก๊สเฉื่อย (เช่น อาร์กอน หรือฮีเลียม) ป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้ได้รอยเชื่อมที่เรียบเนียน สะอาด และสวยงาม เหมาะกับงานเชื่อมสแตนเลส อะลูมิเนียม หรือชิ้นงานที่ต้องการความละเอียดสูง
    • เครื่องเชื่อม MIG/MAG (Metal Inert Gas / Active Gas): เครื่องเชื่อมโลหะแบบใช้แก๊สปกคลุม ใช้ลวดเชื่อมแบบป้อนอัตโนมัติ พร้อมแก๊สป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับอากาศ MIG ใช้แก๊สเฉื่อย ส่วน MAG ใช้แก๊สกึ่งเฉื่อย เหมาะกับงานผลิตจำนวนมาก เช่น งานประกอบชิ้นส่วนในโรงงานอุตสาหกรรม รอยเชื่อมเรียบ และทำงานได้เร็ว
    • เครื่องเชื่อมแบบ Spot (Spot Welder): เครื่องเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมโลหะแผ่นเข้าด้วยกัน ใช้หลักการปล่อยกระแสไฟฟ้าความเข้มสูงผ่านอิเล็กโทรดสองขั้วที่กดชิ้นงานโลหะเข้าหากัน ทำให้เกิดความร้อนเฉพาะจุด และหลอมละลายจนโลหะเชื่อมติดกัน เหมาะสำหรับงานเชื่อมแผ่นโลหะบาง เช่น ตัวถังรถยนต์ ตู้ไฟ หรือโครงเครื่องใช้ไฟฟ้า
  1. เข้าใจระบบไฟฟ้าที่ใช้กับเครื่องเชื่อม
    • เครื่องเชื่อมไฟบ้าน (220V): สำหรับใช้ในบ้านและงานทั่วไป เครื่องเชื่อมส่วนใหญ่ที่พกพาได้จะใช้ไฟระบบนี้
    • เครื่องเชื่อมไฟสามเฟส (380V): สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม และงานหนักโดยเฉพาะ
  1. เลือกเครื่องเชื่อมจากวัสดุที่ต้องการเชื่อม
    วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน จึงต้องใช้เครื่องเชื่อมที่เหมาะสม เช่น เหล็กทั่วไปสามารถใช้ได้ทั้ง MMA, MIG และ TIG ส่วนสแตนเลสให้รอยเชื่อมสวยด้วย TIG ขณะที่อะลูมิเนียมต้องใช้เครื่อง TIG โดยเฉพาะ การเลือกเครื่องให้ตรงกับวัสดุจะช่วยให้เชื่อมง่าย รอยเชื่อมแข็งแรง และลดโอกาสเกิดปัญหาระหว่างทำงาน หากเลือกผิดประเภท อาจเชื่อมไม่ติดหรือเสียชิ้นงานได้
  1. Duty Cycle ระบุที่เครื่องเชื่อม
    Duty Cycle คือค่าที่บอกว่าเครื่องเชื่อมสามารถทำงานต่อเนื่องได้นานแค่ไหนภายในระยะเวลา 10 นาที เช่น หากระบุว่า Duty Cycle 60% ที่ 200 แอมป์ หมายความว่าเครื่องเชื่อมสามารถเชื่อมต่อเนื่องได้ 6 นาที และต้องพักเครื่อง 4 นาที เพื่อป้องกันความร้อนสะสมเกินพิกัด ค่านี้ยิ่งสูง ยิ่งแสดงว่าเครื่องเชื่อมมีคุณภาพดีและทนทานเหมาะกับงานหนัก ผู้ใช้งานจึงควรตรวจสอบค่าดังกล่าวบนฉลากหรือคู่มือเครื่องก่อนเลือกซื้อ โดยเฉพาะหากต้องใช้เชื่อมต่อเนื่องหรือในงานอุตสาหกรรม
  1. เทคโนโลยีของเครื่องเชื่อม Inverter vs. Transformer
    • ระบบหม้อแปลง (Transformer): เทคโนโลยีเครื่องเชื่อมแบบดั้งเดิมที่ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในการลดแรงดัน และเพิ่มกระแสสำหรับการเชื่อม จุดเด่นคือความทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน และรองรับงานหนักได้ดี ตัวเครื่องมักมีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และกินไฟสูง เหมาะสำหรับงานเชื่อมในงานอุตสาหกรรมหนักบางประเภท
    • ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter): ใช้แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการแปลงความถี่ไฟฟ้าให้สูงขึ้นก่อนแปลงเป็นไฟสำหรับเชื่อม ทำให้เครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และประหยัดพลังงานมากขึ้น ให้กระแสเชื่อมที่นิ่ง รอยเชื่อมเรียบสวย และสามารถปรับค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด
  1. การรับประกัน และบริการหลังการขาย
    หลังจากพิจารณาด้านเทคนิคทั้งหมดแล้ว อย่าลืมตรวจสอบเรื่อง การรับประกัน และ บริการหลังการขาย  เพราะเครื่องเชื่อมเป็นอุปกรณ์ที่มีโอกาสเสียหายจากการใช้งานหนัก หรือใช้ต่อเนื่อง การมีการรับประกันที่ชัดเจน เช่น รับประกัน 1–2 ปี พร้อมศูนย์ซ่อม จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และลดความเสี่ยงหากเครื่องมีปัญหา นอกจากนี้ควรสอบถามด้วยว่า มีอะไหล่สำรอง หรือบริการซ่อมภายหลังหมดประกันหรือไม่ เพราะบางรุ่นราคาถูกมากแต่ไม่มีบริการซ่อม ส่งผลให้ต้องซื้อใหม่ทั้งเครื่อง ซึ่งสิ้นเปลืองกว่ามากในระยะยาว

 

เลือกผู้ให้บริการเครื่องเชื่อมต้องที่กิมไท่แสง

  1. ผู้จัดจำหน่ายหลากหลายเครื่องจักรครบวงจร: กิมไท่แสงเป็นโรงงาน และผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักร –เครื่องมือช่างครบวงจร ทั้งเครื่องเชื่อม, โต๊ะ/เครื่องหมุนงานเชื่อม, ลวดเชื่อม, หัวเชื่อม และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ใช้ในงานเชื่อม เช่นชุดหัวเชื่อม Co2, สายเชื่อม และหน้ากากเชื่อม
  2. มีทั้งตู้เชื่อม Inverter และเครื่องเชื่อมระบบอื่น: สินค้าของกิมไท่แสงยอดนิยม จะมี HYL ตู้เชื่อมอินเวอร์คุณภาพสูง รุ่น ARC200 ไฟที่จ่ายในขณะที่ไร้กังวล 40W น้ำหนักสูงสุด 8 กก. และ HYL เครื่องเชื่อม 3 ระบบ รุ่น CT312  ใช้ไฟ 220 V รองรับทั้ง TIG, MMA, CUT ครบในเครื่องเดียว
  3. คุณภาพดีนำเข้าจากโรงงานโดยตรง: กิมไท่แสงเป็นทั้งโรงงาน และผู้นำเข้า เน้นจัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์ช่างโดยเฉพาะ จึงควบคุมคุณภาพได้โดยตรงทั้งผลิตภัณฑ์ และอะไหล่
  4. มีอะไหล่ และอุปกรณ์เสริมรองรับเต็มที่: นอกจากเครื่องเชื่อม ยังมีสายเชื่อม, หัวเชื่อม, เกจ์แก๊ส, หน้ากากเชื่อม และอุปกรณ์ทำความสะอาดหัวเชื่อมอื่น ๆ รองรับเต็มทุกความต้องการงานเชื่อม
  5. ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ: ทีมงานมีความรู้ และประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องเพื่อเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเชื่อม, งานตัด, หรืองานเจียร

 

สรุป ซื้อเครื่องเชื่อมอย่างไรให้คุ้มที่สุด?

การเลือกซื้อเครื่องเชื่อมไม่ใช่แค่การมองหาราคาถูกที่สุด แต่คือการเลือกเครื่องที่เหมาะกับงาน เหมาะกับวัสดุ ระบบไฟฟ้า และความถี่ในการใช้งาน หากคุณเพิ่งเริ่มต้นใช้งานทั่วไป เลือกรุ่นเล็กแบบ Inverter ที่มีฟังก์ชันช่วยเชื่อมก็เพียงพอ แต่หากคุณเป็นช่างมืออาชีพ ลงทุนกับรุ่นกลาง หรือระดับโปรจะให้ผลตอบแทนระยะยาวที่คุ้มกว่า สุดท้ายอย่าลืมเช็ครีวิว เปรียบเทียบสเปก และสอบถามจากผู้ให้บริการก่อนตัดสินใจ

สนใจเครื่องเชื่อมคุณภาพดีที่ครบครันทั้งเครื่องมือ และอะไหล่ ต้องที่ กิมไท่แสง เพราะที่นี่มีสินค้าหลากหลายรุ่น ทั้งระบบอินเวอร์เตอร์ MMA TIG และ MIG พร้อมบริการหลังการขาย ตอบโจทย์ทุกงานเชื่อมอย่างมืออาชีพ และงานซ่อมทั่วไปอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังมีเครื่องจักรก่อสร้างอุตสาหกรรม เครื่องตัด เจาะ ขัด ปั๊ม ลวดเชื่อม คุณภาพดี ราคาถูก จำหน่ายทั้งราคาปลีกและส่ง สนใจสินค้าตัวไหนสามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้เลย กิมไท่แสง ยินดีให้บริการ

 

คำถามที่พบบ่อย

  1. มือใหม่ควรใช้เครื่องเชื่อมแบบไหนดี?
    ควรเริ่มจากเครื่องเชื่อม MMA ขนาดเล็กที่ใช้ไฟบ้าน และมีระบบ Inverter จะเชื่อมง่าย น้ำหนักเบา
  1. เครื่องเชื่อม TIG หรือ MIG แบบไหนรอยเชื่อมสวยกว่า?
    TIG ให้รอยเชื่อมที่สวยกว่า เหมาะกับงานละเอียด ส่วน MIG ทำงานเร็วกว่า เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก
  1. เครื่องเชื่อมใช้ไฟเยอะไหม?
    ถ้าเป็นรุ่น Inverter จะประหยัดไฟกว่ารุ่นหม้อแปลงเก่า ใช้ไฟบ้านได้สบาย
  1. ใช้ปลั๊กพ่วงธรรมดากับเครื่องเชื่อมได้หรือไม่?
    ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสายไฟของปลั๊กพ่วงทั่วไปมีขนาดเล็กเกินไป ไม่สามารถทนกระแสไฟที่สูงมากของเครื่องเชื่อมได้ อาจทำให้สายไฟร้อนจัด ละลาย และเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ ควรต่อตรงจากเต้ารับกำลังสูงหรือเบรกเกอร์โดยตรง